การศึกษาครั้งนี้ผู้ทำการศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูลการทดลองใช้ชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี จากผู้เชี่ยวชาญ และจากกลุ่มตัวอย่าง โดยแบ่งออกได้ดังนี้
4.1 การวิเคราะห์หาคุณภาพของชุดฝึกปฏิบัติ
4.2 การวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของชุดฝึกปฏิบัติ
4.1 การวิเคราะห์หาคุณภาพของชุดฝึกปฏิบัติ
จากการนำชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี พร้อมทั้งเอกสารประกอบการฝึกปฏิบัติให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 9 คน ประเมินคุณภาพของชุดฝึกปฏิบัติ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล มาทำการวิเคราะห์ เพื่อหาคุณภาพของชุดฝึกปฏิบัติ ซึ่งผลที่ได้แบ่งออกเป็น 5 ด้าน ดังนี้ - ด้านการออกแบบชุดฝึกปฏิบัติ
- ด้านการออกแบบ
- ด้านการสร้างชุดฝึกปฏิบัติชุดฝึกปฏิบัติ
- ด้านการใช้งานชุดฝึกปฏิบัติ
- ด้านคู่มือการใช้งานชุดฝึกปฏิบัติ
- ด้านเอกสารประกอบชุดฝึกปฏิบัติ
4.1.1 ผลวิเคราะห์ด้านการออกแบบชุดฝึกปฏิบัติ
ผลการวิเคราะห์คุณภาพชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพี ทางด้านการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ ปรากฏผลดังภาพที่ 4-1
ภาพที่ 4 -1 แสดงผลการประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติที่สร้างขึ้น ด้านการออกแบบ
ผลการประเมินด้านการออกแบบ มีผลการประเมิน ดังนี้
1. ชุดฝึกปฏิบัติมีขนาดและน้ำหนักเหมาะสม ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
2. การจัดวางตำแหน่งต่างๆ ของอุปกรณ์ในชุดฝึกปฏิบัติมีความเหมาะสม ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
3. ชุดฝึกปฏิบัติมีความแข็งแรงทนทาน ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
4. วัสดุที่ใช้ผลิตชุดฝึกปฏิบัติสามารถหาได้ง่ายภายในประเทศ ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก
5. การสร้างชุดฝึกปฏิบัติคุ้มกับประโยชน์ที่ได้รับ ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก
6. ชุดฝึกปฏิบัติก่อให้เกิดแรงจูงใจในการเรียนการสอน ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
7. การเลือกวัสดุที่ใช้ทำชุดฝึกปฏิบัติมีความเหมาะสม ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
8. ชุดฝึกปฏิบัติสามารถทำการฝึกปฏิบัติได้ครอบคลุมทั้ง 4 วัตถุประสงค์ ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก
9. ชุดฝึกปฏิบัติมีความปลอดภัยในการฝึกปฏิบัติ ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
10. ชุดฝึกปฏิบัติมีความสะดวกต่อการฝึกปฏิบัติ ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
11. ชุดฝึกปฏิบัติมีความสะดวกในการเคลื่อนย้ายและเก็บรักษา ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
12. ชุดฝึกปฏิบัติง่ายต่อการซ่อมแซมและบำรุงรักษา ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
13. ค่าเฉลี่ยผลการประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติที่สร้างขึ้น ด้านการออกแบบ ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
จากภาพที่ 4-1 แสดงผลการประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพี ด้านการออกแบบ พบว่า ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นต่อชุดฝึกปฏิบัติ ด้านการออกแบบมีคุณภาพซึ่งมีค่าระดับคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.17 ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่า 3.5 (ระดับดี) ที่กำหนดไว้
4.1.2 ผลการวิเคราะห์ด้านการสร้างชุดฝึกปฏิบัติ
ผลการวิเคราะห์คุณภาพชุดฝึกปฏิบัติ ทางด้านการสร้างชุดฝึกปฏิบัติโดยผู้เชี่ยวชาญ ปรากฏผลดังภาพที่ 4-2
ภาพที่ 4-2 แสดงผลการประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติที่สร้างขึ้น ด้านการสร้างชุดฝึกปฏิบัต
ิ
ผลการประเมินด้านประสิทธิภาพในการประลอง มีผลการประเมิน ดังนี้
1. ชุดฝึกปฏิบัติสามารถนำไปทดลองได้จริง ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก
2. การฝึกปฏิบัติสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
3. ผลการฝึกปฏิบัติสอดคล้องกับเนื้อหาทฤษฎี ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก
4. กระตุ้นความสนใจก่อให้เกิดแรงจูงใจในการฝึกปฏิบัติ ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
5. ชุดฝึกปฏิบัติเป็นประโยชน์สำหรับวิชางานซ่อมเครื่องยนต์หรือวิชาอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
6. ขั้นตอนการฝึกปฏิบัติไม่ยุ่งยาก ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
7. เสียงรบกวนที่เกิดจากชุดฝึกปฏิบัติทำงานมีน้อย ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
8. มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของเชื้อเพลิงในระบบได้ชัดเจน ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
9. ค่าเฉลี่ยผลการประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติที่สร้างขึ้น ด้านประสิทธิภาพในการฝึกปฏิบัติ ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
จากภาพที่ 4-2 แสดงผลการประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี ด้านประสิทธิภาพในการฝึกปฏิบัติพบว่า ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นต่อชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี ด้านประสิทธิภาพในการประลอง มีคุณภาพ ซึ่งมีค่าระดับคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.32 ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่า 3.5 (ระดับดี) ที่กำหนดไว้
4.1.3 ผลการวิเคราะห์ด้านเอกสารประกอบการฝึก
ผลการวิเคราะห์คุณภาพชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี ทางด้านเอกสารประกอบการฝึกปฏิบัติ โดยผู้เชี่ยวชาญ ปรากฏผลดังภาพที่ 4-3
ผลการประเมินด้านเอกสารประกอบการประลอง มีผลการประเมิน ดังนี้
1. เนื้อหาทฤษฎีครอบคลุมวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
2. ขั้นตอนการประลองกับรูปภาพมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
3. อธิบายลำดับขั้นตอนการประลองได้อย่างชัดเจน ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
4. บันทึกค่าที่ได้จากการประลองได้สะดวก ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดีมาก
5. การจัดรูปแบบของใบประลองมีความชัดเจนเหมาะสม ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
6. คำถามในแบบทดสอบท้ายการประลองอ่านเข้าใจง่ายอธิบายชัดเจน ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ ในระดับ ดี
7. คำเฉลยในแบบทดสอบท้ายการประลองเฉลยคำตอบได้ชัดเจน ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ ในระดับ ดี
8. ค่าเฉลี่ยผลการประเมินคุณภาพชุดประลองที่สร้างขึ้น ด้านเอกสารประกอบการประลอง ซึ่งคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับ ดี
จากภาพที่ 4-3 แสดงผลการประเมินคุณภาพชุดประลองระบบทำความเย็นและปรับอากาศรถยนต์ด้านเอกสารประกอบการประลอง พบว่า ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นต่อชุดประลองระบบ ทำความเย็นและปรับอากาศรถยนต์ ด้านเอกสารประกอบการประลอง มีคุณภาพ ซึ่งมีค่าระดับคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.21 ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่า 3.5 (ระดับดี) ที่กำหนดไว้
4.1.4 ผลการวิเคราะห์คุณภาพชุดประลองระบบทำความเย็นและปรับอากาศรถยนต์ทั้ง 3 ด้าน
ผลการวิเคราะห์คุณภาพชุดประลองระบบทำความเย็นและปรับอากาศรถยนต์ โดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านการออกแบบ ด้านประสิทธิภาพในการประลอง และด้านเอกสารประกอบ การประลอง ปรากฏผลดังภาพที่ 4-4
ภาพที่ 4-4 แสดงผลการประเมินคุณภาพชุดประลองที่สร้างขึ้นทั้ง 3 ด้าน
จากภาพที่ 4-4 แสดงผลการประเมินคุณภาพชุดประลองระบบทำความเย็นและปรับอากาศ รถยนต์ทั้ง 3 ด้าน สรุปได้ว่า ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 11 ท่าน มีความเห็นเกี่ยวกับคุณภาพชุดประลองระบบทำความเย็นและปรับอากาศรถยนต์ทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านการออกแบบ ด้านประสิทธิภาพใน การประลอง และด้านเอกสารประกอบการประลอง มีค่าระดับคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.22 ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่า 3.5 ตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ดังนั้น ชุดประลองระบบทำความเย็นและปรับอากาศ รถยนต์ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นจึงมีคุณภาพสามารถนำไปใช้งานจริงได้ (รายละเอียด ดังตารางที่ ก-1 หน้า 63)
4.2 การวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของชุดประลอง
จากการนำชุดประลองระบบทำความเย็นและปรับอากาศไปทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลมาทำการวิเคราะห์ เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดประลอง ซึ่งปรากฏผลดังตารางที่ 4-1 ดังนี้
ตารางที่ 4-1 แสดงผลการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของชุดประลอง
รายการ |
จำนวนผู้เรียน |
คะแนนเต็ม |
คะแนนเฉลี่ยร้อยละ |
||
คะแนนจากการทำแบบทดสอบท้ายการประลอง |
15 |
62 |
753.5 |
50.23 |
81.02 |
คะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียน |
15 |
40 |
493 |
32.87 |
82.17 |
จากตารางที่ 4-1 แสดงให้เห็นว่า ผู้เรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างในการทดลองใช้ชุดประลองที่ ผู้วิจัยสร้างขึ้นจำนวน 15 คน ทำแบบทดสอบท้ายการประลองได้ถูกต้อง คิดค่าเฉลี่ยเป็นร้อยละ 81.02 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยร้อยละ 80 ตัวแรกที่ตั้งไว้ และทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียน ได้ถูกต้อง คิดเฉลี่ยเป็นร้อยละ 82.17 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยร้อยละ 80 ตัวหลังที่ตั้งไว้ (รายละเอียด ดังตารางที่ ค-1 หน้า 72)