บทที่ 3
วิธีการดำเนินการศึกษา
การศึกษาเรื่องการสร้างและหาประสิทธิภาพชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี ซึ่งผู้ศึกษาได้ดำเนินการตามลำดับ ตามหัวข้อ ดังต่อไปนี้
3.1 ศึกษาข้อมูลเบื้องต้น
3.2 สร้างเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
3.3 กำหนดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา
3.4 ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูล
3.5 วิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผล
3.1 การศึกษาข้อมูลเบื้องต้น
ในการศึกษาเรื่อง การสร้างชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจีผู้ศึกษาได้ทำการศึกษาข้อมูลต่างๆ ที่จะนำไปใช้ในการสร้างชุดฝึกปฏิบัติ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
3.1.1 ศึกษาขอบเขต เนื้อหาเกี่ยวกับหลักการทำงานและอุปกรณ์ในระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี เพื่อกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ เนื้อหาวิชาและใบงานที่จะสร้างขึ้น
3.1.2 ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการสร้างสื่อการเรียนการสอน เพื่อทราบขั้นตอนในการออกแบบและสร้างชุดฝึกปฏิบัติ ประโยชน์ของชุดฝึกปฏิบัติทฤษฎีที่เกี่ยวข้องในการออกแบบและสร้างชุดฝึกปฏิบัติ และการวิเคราะห์ผลการวิจัย จากเอกสาร ตำราและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับชุดฝึกปฏิบัติที่สร้างขึ้น
3.1.3 ศึกษาถึงรายละเอียดของสื่อการเรียนการสอนอื่นๆ เช่น ชุดสาธิต หรือ ชุดการสอนฯลฯที่เกี่ยวกับระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี
จากการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นผู้ศึกษาจึงมีแนวทางที่จะสร้างชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจีโดยใช้อุปกรณ์หลัก
ของระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจีมาประกอบเข้ากับเครื่องยนต์ขึ้นเป็นชุดฝึกปฏิบัติหลังจากนั้นจึงนำชุดฝึกปฏิบัติที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ไปหาคุณภาพ
และประสิทธิภาพต่อไป
3.2 การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้ทำการศึกษาได้แบ่งเครื่องมือออกเป็น 4 ส่วนคือ ชุดฝึกปฏิบัติ แบบประเมินคุณภาพของชุดฝึก แบบทดสอบหลังการฝึกปฏิบัติแต่ละชุด และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียนโดยมีรายละเอียดและขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ ดังนี้
3.2.1 ชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจีชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี เป็น
ชุดฝึกปฏิบัติสำหรับผู้เรียนเพื่อใช้ในกระบวนการเรียนการสอนในวิชางานซ่อมเครื่องยนต์ หรือรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี โดยมีขั้นตอนการสร้าง ดังนี้
3.2.1.1 การออกแบบชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี เป็นการออกแบบโดยกำหนดลักษณะต่างๆ ที่ต้องการตามข้อมูลที่ได้ศึกษาในเบื้องต้น ให้สามารถฝึกปฏิบัติสิ่งต่างๆ ได้ดังนี้
ก) สาธิตเห็นการทำงานของระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี
ข) การปรับแต่งเครื่องยนต์ระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจีด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ค) การถอดและประกอบชุดหม้อต้ม
ง) การถอดและประกอบโซลินอยล์
โดยชุดฝึกปฏิบัติดังกล่าว ได้ออกแบบส่วนต่างๆ ได้แก่โครงแท่นเครื่องของชุดฝึกกระดานติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่เรือนไมล์เครื่องยนต์ กล่องอิเล็กทรอนิคส์ควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ และ อุปกรณ์ที่แสดงถึงสถานะความดัน และสูญญากาศถังน้ำมัน เป็นต้น
3.2.1.2 ตรวจสอบโดยอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อตัดสินใจในการเลือกกำหนดรูปแบบชุดฝึกและเพื่อรับคำแนะนำรวมถึงความเป็นไปได้ในการสร้าง
พร้อมทั้งหาข้อบกพร่องในการออกแบบ เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไข
3.2.1.3 สร้างชุดฝึกปฏิบัติโดยคำนึงถึงประเภทของวัสดุและอุปกรณ์ ที่จะนำมาสร้างมีความสะดวกในการถอดประกอบและการเคลื่อนย้าย รวมถึงความปลอดภัยในการใช้งาน
3.2.1.4 ตรวจสอบโดยการทดลองใช้ตามขอบเขตที่กำหนดไว้ในขอบเขตของการวิจัย เพื่อพิจารณาถึงข้อดีข้อเสีย พร้อมทั้งข้อบกพร่องต่างๆ ของชุดฝึกปฏิบัติที่สร้างขึ้นเพื่อนำไป ปรับปรุงแก้ไข
3.2.1.5 ได้ชุดฝึกปฏิบัติที่สมบูรณ์พร้อมนำไปใช้ในการวิจัย
3.2.2 แบบประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี
3.2.2.1 สร้างแบบประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติ โดยแบ่งออกเป็น 2 ตอนดังนี้
ก) ด้านการออกแบบ
ข) ด้านการสร้าง
ค) ด้านการใช้งาน
ง) ด้านเอกสารประกอบชุดฝึก
จ) ด้านคู่มือการใช้งาน
3.2.2.2 ตรวจสอบโดยอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อพิจารณาถึงข้อดีข้อเสีย ข้อบกพร่องต่างๆของแบบประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติเพื่อนำไปปรับปรุง
ต่อไป
3.2.2.3 ได้แบบประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติที่พร้อมสำหรับให้ผู้เชี่ยวชาญประเมิน
3.2.3 การสร้างแบบทดสอบหลังการฝึกปฏิบัติแต่ละชุด
3.2.3.1 ศึกษาข้อมูลที่ใช้จัดทำแบบทดสอบหลังการฝึกปฏิบัติจากรายละเอียดของใบงาน
3.2.3.2 สร้างแบบทดสอบหลังการฝึกปฏิบัติ
3.2.3.3 ตรวจสอบโดยอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียข้อบกพร่องต่างๆของ แบบทดสอบหลังการฝึกปฏิบัติเพื่อนำไปปรับปรุง
ต่อไป
3.2.3.4 ได้แบบทดสอบหลังการฝึกปฏิบัติที่พร้อมสำหรับทดสอบกับผู้เรียน
3.2.4 การสร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียนที่สร้างขึ้น
3.2.4.1 ศึกษาข้อมูลที่ใช้จัดทำแบบทดสอบการวัดผลสัมฤทธิ์ของชุดฝึกปฏิบัติจากรายละเอียดของใบงาน
3.2.4.2 สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียน
3.2.4.3 ตรวจสอบโดยอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียข้อบกพร่องต่างๆเพื่อปรับปรุงแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียน
ให้สมบูรณ์
3.2.4.4 ได้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียนที่พร้อมสำหรับทดสอบกับผู้เรียน
3.3 การกำหนดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา
ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้กำหนดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญสำหรับการหาคุณภาพของชุดฝึกปฏิบัติและกลุ่มตัวอย่างของผู้เรียน สำหรับการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกปฏิบัติ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
3.3.1 การกำหนดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญสำหรับการหาคุณภาพของชุดฝึกปฏิบัติ
3.3.1.1 การกำหนดคุณสมบัติของผู้เชี่ยวชาญ โดยผู้เชี่ยวชาญที่ประเมินคุณภาพของชุดฝึกปฏิบัติต้องเคยผ่านการสอนวิชางานซ่อมเครื่องยนต์ หรือวิชาที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับงานซ่อมเครื่องยนต์ หรือผู้ที่มีประสบการณ์ในการสอนงานช่างอุตสาหกรรม มาแล้วอย่างน้อย 5 ปี วุฒิการศึกษาระดับ ปริญญาโท และหรือจบการศึกษาระดับปริญญาตรี มีประสบการณ์สอนไม่น้อยกว่า 10 ปี
3.3.1.2 พิจารณาคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญสำหรับการหาคุณภาพของชุดฝึกปฏิบัติโดยผู้ศึกษาเลือกแบบเจาะจง จำนวน 9 คน
3.3.1.3 ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เชี่ยวชาญ โดยอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อช่วยในการคัดเลือกคุณสมบัติของผู้เชี่ยวชาญแต่ละคน ซึ่งจะได้ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถประเมินคุณภาพของชุดฝึกปฏิบัติ ได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น
3.3.1.4 ขออนุมัติแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญจากภาควิชาครุศาสตร์เครื่องกลคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
พระนครเหนือ ซึ่งจะได้ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมประเมินชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี
3.3.2 การกำหนดกลุ่มตัวอย่างสำหรับการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกปฏิบัติ
3.3.2.1 การกำหนดคุณสมบัติของกลุ่มตัวอย่าง โดยกลุ่มตัวอย่างต้องเป็นผู้เรียนที่มี พื้นฐานความรู้วิชาระบบฉีดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิคส์มาก่อน
3.3.2.2 เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง โดยเป็นผู้เรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง วิทยาลัยเทคนิคพะเยา สาขางานเทคนิคยานยนต์ จำนวน 40 คน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา
3.3.2.3 ตรวจสอบคุณสมบัติของกลุ่มตัวอย่างโดยอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อให้ได้กลุ่ม ตัวอย่างที่ถูกต้องในการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกปฏิบัติ
3.3.2.4 ได้กลุ่มตัวอย่างที่พร้อมใช้ในการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกปฏิบัติ
3.4 การดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูล
การดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้ศึกษาได้ดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลเป็น 2 กลุ่มได้แก่ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ทำการประเมินคุณภาพของชุดฝึกปฏิบัติและเอกสารประกอบการฝึกปฏิบัติ และกลุ่มตัวอย่างที่ทดลองใช้ชุดฝึกปฏิบัติเพื่อหาประสิทธิภาพของชุดฝึกปฏิบัติที่สร้างขึ้นโดยมีรายละเอียด ดังนี้
3.4.1 การดำเนินการทดลองและ เก็บรวบรวมข้อมูลแบบประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติ
3.4.1.1 เชิญผู้เชี่ยวชาญ ที่ได้รับอนุมัติแต่งตั้งจากภาควิชาครุศาสตร์เครื่องกล คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เพื่อทำการประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติ
3.4.1.2 ดำเนินการสาธิตการใช้และการทำงานของชุดฝึกปฏิบัติ ให้ผู้เชี่ยวชาญประเมิน
3.4.1.3 ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินคุณภาพชุดฝึกปฏิบัติโดยใช้แบบประเมินคุณภาพของชุดฝึกปฏิบัติที่สร้างขึ้น
3.4.1.4 เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูล
3.4.2 การดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลแบบทดสอบหลังการฝึกปฏิบัติในแต่ละการฝึกปฏิบัติ โดยมีรายละเอียดดังภาพภาพที่ 3-8
3.4.2.1 จัดกลุ่มผู้เรียน โดยให้ผู้เรียนศึกษาและทำการฝึกปฏิบัติในแต่ละครั้ง
3.4.2.2 ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังการฝึกปฏิบัติ
3.4.2.3 เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูล
3.4.3 การดำเนินการทดลองและเก็บรวบรวมข้อมูลแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียน
3.4.3.1 กำหนดเวลา และสถานที่สอบให้ผู้เรียนทราบ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เรียนได้เตรียมพร้อมและทบทวนความรู้ที่ได้ทดลองกับชุดฝึกปฏิบัติก่อนเข้าทำการทดสอบ
3.4.3.2 จัดกลุ่มผู้เรียนที่ทดลองครบทุกการฝึกปฏิบัติเข้าทดสอบ พร้อมทั้งอธิบายรายละเอียดและวิธีการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียน
3.4.3.3 ผู้เรียนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียนภายในเวลาที่กำหนด
3.4.3.4 เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูล
3.5 การวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผล
การศึกษาเพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพชุดฝึกปฏิบัติเครื่องยนต์แก๊สโซลีนระบบฉีดเชื้อเพลิงแอลพีจี ผู้ศึกษาได้ทำการศึกษาหลักสถิติต่างๆ เพื่อใช้ประกอบในการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ดังนี้
3.5.1 การหาค่าคะแนนเฉลี่ยของระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ(ล้วนและอังคณา,2538: 73)
3.5.2 การหาประสิทธิภาพของชุดฝึกปฏิบัติที่สร้างขึ้น (เสาวณีย์, 2528: 284)
* เกณฑ์ E1 / E2 กำหนดไว้ 80/80